1 จำนวน 30 ไร่ มีสวนชื่อว่า สวนลิ้นจี่ อุทัยรัศมี และสวนของคุณรัศมียังเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกร หน่วยงานรัฐ หรือบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจในลิ้นจี่ นพ. 1 ข้อดีของลิ้นจี่ นพ. 1 ที่โดดเด่นกว่าสายพันธุ์อื่นคือ มีรสชาติดี หวานอมเปรี้ยว เนื้อแห้ง ไม่แฉะ คุณรัศมี กล่าวว่า ลิ้นจี่ นพ. 1 เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก ราคาดีมาตลอด คุณรัศมี กล่าวว่า การปลูกลิ้นจี่ให้ได้ผลผลิตที่ดีควรปลูกในพื้นที่อากาศเย็น แต่อากาศที่ทำให้ลิ้นจี่ออกผลผลิตได้ดีที่สุดคือ 18 องศาเซลเซียส หรือไม่เกิน 20 องศาเซลเซียส หากมีสภาพอากาศที่อุณหภูมิสูงกว่านี้จะทำให้ลิ้นจี่ไม่สามารถออกผลได้ ในการปลูกลิ้นจี่ของทางสวนจะปลูกกล้วยแซมเพื่อใบกล้วยจะเป็นร่มเงาให้กับต้นลิ้นจี่ เพราะหากต้นลิ้นจี่ที่โดนแสงแดดจัดๆ ทำให้ไม่ติดผล คุณรัศมีอธิบายถึงขั้นตอนในการเพาะปลูกลิ้นจี่ นพ.
ใครชื่นชอบลิ้นจี่กันบ้างเอ่ย?
ลิ้นจี่ ผลไม้เศรษฐกิจชั้นดีอีกชนิดหนึ่งของประเทศไทย มีแหล่งปลูกลิ้นจี่ ใหญ่ๆ อยู่ 2 แหล่ง คือ ภาคเหนือตอนบน และ ภาคกลางเฉพาะ จ. สมุทรสงคราม ส่วนในภาคอื่นๆ การปลูกยังมีน้อย เป็นแบบกระจายตัว อย่างในภาคอีสาน เช่น จังหวัดเลย นครพนม และหนองคาย เป็นต้น แต่ในปัจจุบัน ลิ้นจี่ กำลังได้รับความสนใจจาก เพื่อนๆ เกษตรกรในภาคอีสาน เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะ มีการพัฒนาสายพันธุ์ ลิ้นจี่ นพ. 1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะใน จังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร เลย หนองคาย และ อุบลราชธานี โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ จ. นครพนม ได้นำพันธุ์มาปลูกศึกษาในพื้นที่ พบว่าสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ขายได้ราคาดี เหมาะที่จะส่งเสริมการปลูก เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ลิ้นจี่ นพ. 1 เกิดจากการกลายพันธุ์โดยวิธีเพาะเมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยวิธีตอนกิ่ง มีจุดเด่นหลักๆ คือ ออกดอก ติดผล สม่ำเสมอทุกปี โดยออกดอกเดือนธันวาคมและเก็บเกี่ยวกลางเดือนเมษายน เมื่อต้นลิ้นจี่อายุ 5 ปี มีผลผลิตเฉลี่ย 20 กิโลกรัมต่อต้น และให้ผลใหญ่ ทรงรูปไข่ เปลือกแดงอมชมพู เนื้อผลแห้ง สีขาวขุ่น รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย รสไม่ฝาด สภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะกับลิ้นจี่โดยทั่วไป คือ ดินระบายน้ำได้ดีมาก มีค่าpH 5.
ท่มโคก (กระทุ่มโคก; Mitragyna hirsute Havil. ) ลุมพุกแดง (มะคังแดง; Dioecrescisery throclada (Kurz) Tirveng. ) ลุมพุกขาว (ตะลุมพุก; Tamilnadia uliginosa (Retz. ) Tirveng. &Sastre) แก่นหมากคำ (ยังจำแนกไม่ได้) ไม้หมากแงว (คอแลน; Nephelium hypoleucum Kurz) ต้มกินดี คายตำลึง 1 แพวาหนึ่ง เหล้า ก้อง ไข่ หน่วยแล (มีค่าบูชาครู 1 ตำลึง ผ้า 1 ผืน เหล้า 1 กระปุก ไข่ 1 ใบ) นอกจากนี้คอแลนยังมีสรรพคุณอื่นอีกมากมาย เช่น ช่วยทำให้ชุ่มคอ ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มพลังงาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยเสริมสร้างสมาธิ แก้ปัญหาสมาธิสั้น ช่วยลดความเครียด ช่วยในการย่อยอาหาร ใช้เป็นยาระบาย ช่วยต่อสู้กับเชื้อหวัดและไวรัสไข้หวัดใหญ่ คอแลนได้รับความนิยมนำมารับประทานโดยการจิ้มพริกเกลือ และบางคนก็นำไปยำกับปลาร้าเพื่อเพิ่มรสชาติอีกด้วย แหล่งอ้างอิง
5-6. 5 ต้องการอุณหภูมิ 10-20 องศาเซลเซียส นานติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงก่อนออกดอกธันวาคม หากพื้นที่ใดมีฝนน้อย ต้องให้น้ำช่วย เพราะความชื้นในดินจำเป็นต่อลิ้นจี่มาก ถ้าลิ้นจี่ขาดความชื้นในดิน ดอกที่ออกมามักจะแห้งและร่วงมาก การเตรียมพื้นที่ปลูกลิ้นจี่ มีความสำคัญมาก ถ้าเป็นที่ลุ่มต่ำ ต้องขุดร่องยกแปลงขึ้นเพื่อ ระบายน้ำ เพราะลิ้นจี่ไม่ชอบน้ำขัง แต่ถ้าเป็นที่ดอน ก็ไถพรวนปรับพื้นที่ให้สม่ำเสมอ และ ควรมีแหล่งน้ำ เตรียมหลุมปลูก ขนาดหลุม 50 x 50 x 50 ซม.