การรับสินค้า เมื่อสินค้ามาถึงที่คลังสินค้า พนักงานจะทำการ ตรวจนับจำนวนสินค้า และตรวจสอบคุณภาพสินค้า จากนั้นจะทำการติดบาร์โค๊ดสินค้าเพื่อใช้ในการ หยิบสินค้าให้ถูกต้องและครบถ้วน กระบวนการเหล่านี้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบได้ผ่านระบบทุกขั้นตอน 2. การจัดเก็บสินค้า สินค้าจะถูกจัดเก็บโดยที่ตัวสินค้าจะมี บาร์โค๊ดและ ล็อตของสินค้าทำให้เมื่อมีคำสั่งซื้อ สินค้าจะถูกหยิบแบบ First In First Out (FIFO) หรือการ "เข้าก่อน ออกก่อน" ส่งผลให้สินค้าบางรายการที่มีการเสื่อมอายุ ถูกจัดส่งออกไปตามล็อต เป็นการช่วยลดปัญหา สินค้าหมดอายุได้ 3. การจัดการคำสั่งซื้อ เมื่อมีคำสั่งซื้อระบบจะทำการดึงข้อมูลคำสั่งซื้อมา อัตโนมัติ ตามช่องทางการขายต่างๆ เช่น Shopee, Lazada, JD central, Central retail ทั้งนี้ผู้ใช้บริการควรสอบถามกับผู้ให้บริการว่าระบบรองรับช่องทางการขายใดบ้าง 4. การหยิบสินค้า เมื่อดึงข้อมูลคำสั่งซื้อเข้ามาแล้ว ระบบจะทำการ ตรวจสอบข้อมูลสินค้าจาก SKU ที่ผู้ใช้บริการได้ตั้งค่าไว้ และออกใบหยิบสินค้าและแจ้งสถานที่จัดเก็บสินค้าแก่พนักงานในคลังสินเพื่อให้การหยิบสินค้าเป็นไปอย่างถูกต้อง 5. การแพ็คสินค้า ในกระบวนการแพ็คสินค้าพนักงานแพ็คสินค้าจะทำการห่อด้วยวัสดุกันกระแทก และประเมินขนาดของสินค้าเพื่อเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง 6.
หากนำคำว่า Fulfillment มาแปลความหมายตรงตัวในภาษาไทย หมายถึง การเติมเต็ม แต่หากนำคำว่า Fulfillment มาใช้ในเชิงธุรกิจออนไลน์จะหมายถึง การบริการในการ เก็บ แพ็ค ส่ง สินค้า ที่ช่วยให้การทำงานของร้านค้าออนไลน์มีความสมบูรณ์แบบและเป็นระบบตามเป้าหมายที่วางไว้เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง และเป็นบริการที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานให้กับร้านค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้นครับ หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า "Fulfillment" แต่อาจจะไม่รู้ว่าบริการ Fulfillment นั้นคืออะไร? มีระบบการทำงานอย่างไร? ตอบโจทย์ร้านค้าแบบไหน?
จะเป็นการเพิ่มต้นทุนหรือเปล่า? บริการ Fulfillment แพงกว่าทำเองหรือคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือเปล่า?